On the road to Mandalay

มีบางคนบอกว่า พระอาทิตย์ตกที่ไหนๆ ก้อเหมือนกัน แต่สำหรับเรา การมองดูพระอาทิตย์ตกเป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างหนึ่ง ?มันเป็นหลักฐานแสดงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราทุกวัน สามารถจบลงด้วยความสวยงามได้ตลอด และที่พม่าแห่งนี้ ถือว่าเป็นประเทศที่คุณสามารถหาสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินได้หลายรูปแบบมากๆ ก่อนหน้านี้เราเสนอที่ชมพระอาทิตย์ตกหลายที่ที่พุกามไป วันนี้เราอยู่กันที่ มัณฑะเลย์ …

เรามาทำอะไรกันที่มัณฑะเลย์?

1. Sunset at Ubeng Bridge

สะพานไม้อูเบ็งได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าและยาวที่สุดในโลก คือยาวถึง 1.2 กิโลเมตร ซึ่งทอดตัวข้ามทะเลบาปตวงตะมาน ซึ่งอยู่ในเมืองอมรปุระ ติดกับตัวเมืองอย่างมัณฑะเลย์

One of the popular ways to enjoy sunset at Ubeng bridge

A-Must อย่างนึงที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดคือ การเช่าเรือพายไปรอ ดูพระอาทิตย์ตกดินที่สะพานอูเบ็ง คุณสามารถหาเช่าเรือได้อย่างง่ายดายบริเวณชายฝั่งด้านอมรปุระ ราคาจะอยู่ประมาณ 10-15 USD ต่อลำ (ต่อได้ … บอกเป็นคนไทย เพื่อนกัน!)

The dried old tree – seems to be a landmark here in this lake
Yes! Indeed. This is a popularly photographed Myanmar symbol which is well worth a visit.

ถ้าคุณจะเพิ่ม option อย่างจิบไวน์ล่องเรือ ก้อมีให้เลือกนะจ๊ะ

Rented boat comes with wines and champagnes

ความสุขของการนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ ไม่ได้มีเพียงวิวสวยๆ ของทะเลสาบเท่านั้น แต่หากเป็นการได้มองวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น เด็ก และพระสงฆ์ ที่เดินอยู่บนสะพาน และยังคงใช้สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางคมนาคมประจำวัน

Enjoy watching locals crossing the lake.

เมื่อฟ้าเริ่มเป็นสีทอง คณะเรือพายเริ่ม line up กันบนท้องทะเลสาบมากขึ้น เป็นสัญญาณว่า ความสว่างกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว…

Spectacular sunset over the lake
Sunset at Ubeng bridge

2. Indulge in Local

ถ้าคุณมีเวลา ลองใช้มันช้าๆ โดยการเดินดูวิถีชีวิตคนบนสะพานไม้อูเบ็งแห่งนี้คุณจะพบว่า มันไม่จำเจเหมือนที่คุณเคยเห็นแน่นอน คุณจะเพลินเพลินไปกับเสียงของเท้าที่กระทบลงบนพื้นไม้ แล้วพักๆ ก้อมีเสียงเด็กกระโดดน้ำตูมๆ ทั้งคนทั้งจักรยาน สวนกันไปมาบนสะพาน ลมเอื่อยๆ ที่พัดโดนตัวเราบ้างไม่โดนบ้าง… คือ ชิวอ่ะ บอกเลอ! แต่ถ้ามาหน้าหนาวก้อคงจะดีกว่านี้มั้ง

Monks often come here and walk and get lost in their thoughts.

ระหว่างทาง… นอกจากคุณจะเห็นคน local แล้ว … เอาจริงๆ นักท่องเที่ยวเยอะมว๊ากกกกกก เมิงจะเดินเบียดกันไปไหน~~~~~ และสิ่งที่ขาดไม่ได้กับเมืองที่ touristy ขนาดนี้ คุณจะเห็นร้านของที่ระลึก ขนม ถั่ว ไอติม และ… ผลไม้ดอง (อึ๊ก… กลืนน้ำลายแปร๊บ) เป็นระยะๆ บนสะพานไม้แห่งนี้

น้ำลายไหลเยิ้ม …
เกาลัดมั้ยคะ?

อย่า! อย่ามองแต่บนสะพานอย่างเดียว …

Local fisherman throws his nest near Ubeng bridge in Mandalay.
Classic fishing style I guess…

เราคิดว่า ภาพแบบนี้มันโคตรคลาสสิกเลย และคงจะหาวิถีชีวิตแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ แล้วในสมัยนี้

3. Taste some local food

ด้วย mission ตามหาชาพม่า royal mike tea ของพวกเรา ทำให้เราพาตัวเองมาอยู่ตลาดสดแบบตลาดแบกะดินที่มัณฑะเลย์…

Traditional fresh market near Zegyo Market

ตลาดแห่งนี้ก้อเหมือนตลาดสดทั่วไป เดินไปเดินมาเราก้อหยุดที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวร้านนึง วิธีการทำ ทำให้เราหยุดอึ้งดูอยู่พักนึง แม่ค้าเค้าจะมีกาละมังเล็กๆ ชีทำการใส่เส้นและเครื่องปรุงลงไป จากนั้นชีก้อเอามือเปล่าๆ นั่นแหละ ทำการขยำอย่างเมามันส์

Well…I’m a bit concern with hygiene, guess I’ll pass…

คือบอกเลอ ว่าไม่ได้แค่คลุกอย่างเดียวนะ ชีมีการขยำๆ บิดไปบิดมา ขุดๆเครื่องปรุงที่ติดมือลงไปผสม และทำการคลุกใหม่ แต่ที่ทำให้เรากลืนน้ำเลยก้อคือ เล็บของชีเป็นสีฟ้าครึ่งนึง… ทำเอาเราสงสัยเลยว่า ฟ้าอีกครึ่งหายไปน๊า~~~~ และยังซอกเล็บดำๆ นั่นอีก หรือว่า… นี่คือเคล็ดลับความอร่อยที่เค้าว่ากัน!

Ummm … can I please have it on a dish?

ร้านติดๆ กันเค้ายังมีช้อนเล้ยยยย ป้า! เห้อออออ เอาเป็นว่า… ใครอยากลองของแปลก ก้อตามดวก ไม่ว่ากันอยู่แร้ววว

4. Visit Mandalay Hill, the landmark of Mandalay

ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของเมือง คุณจะเห็น mandalay hill ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของมัณฑะเลย์ ที่นี่คุณสามารถมาปักหลักรอได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้เลย

Mandalay Hill

ถ้าขับรถจากตัวเมืองมา จะมีที่จอดรถที่คุณสามารถใช้บันไดเลื่อน ขึ้นไปถึงยอดเขาแบบสบายๆ แต่ถ้าคุณ prefer การเดินขึ้น เค้าก้อมีบันไดจากตีนเขายาวขึ้นไปจนยอดเขาเลย ก้อเอาตามสะดวกและตามสังขาร

At the top of the Hill is Sutaungpyi Pagoda.

เมื่อคุณขึ้นถึงด้านบน คุณจะเห็นเป็นลานขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ Su Taung Pyi

งวดหน้าขอ 3 ตัวเน้นๆ นะเจ้าคะ…
Sutaungpyei Pagoda

ที่นี่ ได้ขนานนามว่าเป็น watch tower ที่สามารถเห็นเมืองมัณฑะเลย์ได้ 360 ฮงศาเลยทีเดียว

5. Temple Visits
มาพม่า ถ้าไม่เข้าวัดก้อคงแปลก! ที่แรกที่เราไปก้อคือ Kuthodaw Pagoda ที่ที่ได้รับขนานนามว่า The world’s largest book เหตุเพราะว่าที่วัดแห่งนี้มีสถูปจำนวนมากถึง 729 องค์ ภายในมีหินอ่อนสลักตัวหนังสือจากพระไตรปิฏกซึ่งคาดกันว่า ถ้าใช้เวลาอ่านวันละ 8 ชั่วโมง คุณจะต้องใช้เวลานานถึงหนึ่งปีถึงจะอ่านมันหมด

Kuthodaw stupas – each contains a marble slab with text from Tipitaka (Buddhist scriptures).

แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเรานั้น หาใช่พระไตรปิดกไม่… การที่มีสถูปสีขาวเรียงรายขนาดนี้ มันเป็น photo shooting landscape ดีๆ นี่เอง

Pre-wedding 🙂

และมันยังเป็นสถาที่ยอดฮิตของคน local ที่มาถ่ายรูปและถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยนะเออ!

จากนั้นเราก้อไปกันที่ Shwenandaw Monastery ตำหนักไม้สักเก่าจากพระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นหลังเดียวยังหลงเหลืออยู่จากการถล่มของกองทัพอังกฤษในสมัยสงครามโลก ที่รอดพ้นก้อเพราะว่า พระเจ้าทีบอ ให้รื้อมาแล้วมาสร้างใหม่ถวายวัด

Shwenandaw Monastery

ตัวตำหนักที่ทำด้วยไม้สักทั้งหลัง มีลวดลายแกะสลักวิจิตรสวยงามมาก ศิลปะช่างมัณฑะเลย์ขนานแท้ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นแผ่นทองคำเปลวเคลือบอยู่นิดหน่อยด้วย

A Cupid nicely carved from teak wood.

ก้อประมาณนี้ พอหอมปากหอมคอ เข้าวัดมากไม่ได้ ไม่สันทัด 55555

ทริปนี้ก้อทำให้เรารู้ว่า เหยยยย พม่าก้อยังมีอีกหลายที่ที่น่าไป เด๋วมีเวลาแล้วจะมาใหม่นะ

เด็กข้างหลังนั่น… แกไปฉี่มาชัวร์

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะ ยาวเหมือนเดิม กด like กด Share ให้ด้วยนะค้าาาา ?

Amy Yu

สะใภ้จีนที่รักการท่องเที่ยวและการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าไม่ได้ทำงาน ซึ่งจริงๆแล้ว "ผิดถนัดค่ะ" ยังทำงานประจำอยู่นะคะ เป็นสาววิศวะไอที มีการงานทำค่ะ ประเทศที่ไปแล้วชอบมากเป็นอันดับหนึ่งคือ Iceland ส่วนประเทศที่ไปแล้วไปอีกเพราะสนุกดีคือ อินเดีย ประเทศที่ยังไม่ได้ไปแต่อยากไปมว๊ากกก คือ เคนย่า (หาเพื่อนไปยากมาก T.T) ใครเป็นสายท่องเที่ยว เชิญมาเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่จริงใจค่ะ :) กริรกริ

Recommended Articles

This error message is only visible to WordPress admins

Error: No feed found.

Please go to the Instagram Feed settings page to create a feed.