ถ้าจะให้เราลองนึกดูว่า เค้กที่ติด Top 10 ในใจเรา 
และเชื่อว่าถ้าคุณได้ลอง เค้กชิ้นนี้จะต้องอยู่ในอันดับต้นๆ ของคุณแน่นอน วันนี้ เรานำเค้กชิ้นเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์ ความไฮโซโบว์ใหญ่มาก 
และที่สำคัญ รสชาติและ texture ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่นมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง (ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเอากลับมาแจกให้แฟนๆ page ของเรา ติดตรงที่ว่าต้องกักตัว กลัวเค้กเน่าก่อน) เค้กช็อคโกแลตนี้ มีชื่อว่า Imperial Torte ของดังของ Hotel Imperial ที่เวียนนานั่นเองค่าาาา
จริงๆ แล้ว เราพูดว่าเค้กช็อคโกแลตก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะมันคือ Torte เป็นภาษาเยอรมัน 
หมายถึง เค้กที่มีลักษณะเป็นชั้นๆ อ่านออกเสียงว่า “ทอร์ท” เป็นเค้กขึ้นชื่อของประเทศออสเตรีย 
ใครไปออสเตรีย ก็น่าจะได้ไปลองชิมทอร์ทกันบ้างแหละ แต่ Imperial torte ที่ Hotel Imperial แห่งนี้ มันไม่ธรรมดา เพราะถ้ามันธรรมดา เราจะเอามาพูดทำม๊ายยยย เสียเวลาทำมาหากินสิคะ Torte ชิ้นนี้มันถูกสร้างสรรค์มาครั้งแรกเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารเลี้ยงต้อนรับ Imperor Franz Joseph ที่มาร่วมงานเปิดโรงแรม Hotel Imperial แห่งนี้ ในปี 1873 นั่นเอง
ทอร์ทชิ้นนี้ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยมือของนาย Xavier Lobiner 
ผู้ช่วย Chef ที่ทำงานอยู่ในโรงแรมนี้ ที่ต้องย้ำว่าด้วยมือ เพราะตอนนั้น เค้ายังเป็น ผู้ช่วย Chef ตัวเล็กๆ เค้าจึงยังไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงอุปกรณ์หรือเครื่องครัวใดๆ เค้าก็เลยเกิดความคิดว่า “ชั้นจะต้องทำอะไรแตกต่างจากปกติ เพื่อที่องค์จักรพรรดิเห็น 
จะได้ประทับใจ และจะต้องโดดเด่นกว่าเค้กชนิดอื่นด้วยนะ” (เสียงพากษ์พันธมิตรมาเลย) เค้าจึงออกแบบทอร์ทออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยม แทนที่จะเป็นทรงกลมเหมือน torte ที่ทำกันปกติ วันต่อมา miracle ก็เกิดขึ้นกับผู้ช่วยเชฟหนุ่มผู้นี้ เพราะองค์จักรพรรดิ์เห็นก็เอ่ยว่า “ชั้นขอตำ เอ้ยชิม ซักคำได้มั้ย พ่อหนุ่ม” 
หลังจากนั้น ชิวิตผู้ช่วยเชฟก็เปลี่ยนหน้ามือหลังเท้า เพราะทอร์ทที่เค้าสรรสร้างด้วยมือสองข้างแบบไม่มีตัวช่วยนี้ กลายเป็นเอกลักษณ์และของดังของที่ Hotel Imperial ไปเลย โดยสูตรทอร์ทตั้งแต่ปี 1973 ก็ได้เก็บเป็นความลับ และได้ตกทอดจนมาถึงปัจจุบัน โดยมีแค่เชฟทำ torte แค่สี่คนเท่านั้นที่รู้สูตร และเค้าทั้งสี่ก็ทำ torte ด้วยมือหมดทุกชิ้น เป็นไงหล่ะ ฟังแล้วก็เหมือนเค้กเวอร์ชั่น Hermes ขึ้นมาเลยทันที
ทีนี้ก็มาถึงเรื่องราวของผู้ชิมอย่างเราบ้าง ฮาา ต้องออกตัวก่อนว่า เราไม่ได้เป็นคนชอบกินเค้กช็อคโกแลต แต่…. แต่พอลองกิน เห้ยยยยย ต้องร้อง อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด อร่อยมว๊ากกกกก คือมัน unique จริงๆ เด๋วหาว่าโม้ มาจะอธิบายว่ามันต่างกับ เค้กช็อคโกแลตที่เป็นชั้นๆ ที่อื่นยังไง คือชั้นเค้กของเค้า ทำจาก sliced almond ที่เอาไปอบจนกรอบ แล้วเอามาอัดเป็นชั้นบางๆ วางสลับกับชั้น fluffy chocolate buttercream ที่ไม่นิ่มไม่แข็งเกินไป ที่สำคัญคือมันไม่หวานมากด้วย สลับชั้นกันไปเรื่อยๆ จนได้ก้อนเค้กออกมา ชั้นสุดท้ายจะห่อด้วยมาร์ซิแพน (Marzipan) และ top layer ด้วย icing สูตรของ imperial เอง โปะข้างบนด้วยชิ้นเวเฟอร์ช็อคโกแลตปั๊มตราโลโก้เค้ก เพิ่มความหรูหราหมาเห่าไปอี๊กท่านผู้โชมมมม
ใครฟังเราบรรยายแล้วไม่เห็นภาพ แนะนำได้ดูคลิปนี้ได้ ดูแล้วแทบจะสั่งซื้อส่งตรงจากกรุงเวียนนาแน่นอน 555
Imperial Torte นี้ทำมา 3 flavor คือแบบ No.1 หรือรส original กินแล้วรสชาติหวานนุ่มลิ้น ตัดความหวานด้วย texture almond ที่มีความหอมแบบ almond คั่ว กินแล้วหลับตาก็เหมือนย้อนอดีตไปงานเลี้ยงเปิดโรงแรมนั่งข้างๆ emporer ไรงิ อีกรสชาติคือ No.2 หรือสายส้ม 
ซึ่งจะมีส่วนผสมของ citus fruits และเพิ่มรสชาติขมของกาแฟเข้าไปด้วยเพื่อความกลมกล่อม และสุดท้าย No. 3 หรือสายเบอรี่ โดยจะมีการผสม raspberry ลงไป ก็จะได้รสชาติ velvety ให้ความรู้สึก summer หน่อยๆ 
พิกัดความอร่อย: ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันต้องขายอยู่ที่ Hotel Imperial ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียแน่นอน 555 ทาด้า~~~ (จะบอกซ้ำทำไม) ใครมีโอกาสแวะไปเที่ยวที่กรุงเวียนนา แนะนำให้ไปชิมอย่างแรง เพราะนอกจาก torte ที่อร่อย unique และหาทานที่อื่นไม่ได้แล้ว Hotel Imperial เองก็สวยมากกก สวยตาแตก สวยไม่เกรงใจใคร เข้าไปถ่ายรูปโรงแรมก็คุ้มแล้ว ซึ่ง แน่นแนว่าเด๋วเราจะมารีวิวความเวอร์วังอลังการ ดาวสิบล้านดวง 
ให้ฟังในรีวิวต่อไปแน่นอนค่ะ
สะใภ้จีนที่รักการท่องเที่ยวและการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าไม่ได้ทำงาน ซึ่งจริงๆแล้ว “ผิดถนัดค่ะ” ยังทำงานประจำอยู่นะคะ เป็นสาววิศวะไอที มีการงานทำค่ะ ประเทศที่ไปแล้วชอบมากเป็นอันดับหนึ่งคือ Iceland ส่วนประเทศที่ไปแล้วไปอีกเพราะสนุกดีคือ อินเดีย ประเทศที่ยังไม่ได้ไปแต่อยากไปมว๊ากกก คือ เคนย่า (หาเพื่อนไปยากมาก T.T) ใครเป็นสายท่องเที่ยว เชิญมาเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่จริงใจค่ะ 🙂 กริรกริ
