มาญี่ปุ่น ช้อปปิ้งเสื้อผ้าแบรนด์ไหนดี? Update Trend เสื้อผ้า ก่อนอำลาปี 2019

หลายคนชอบมาเที่ยวญี่ปุ่นเหมือนเรา เพราะนอกจากจะมาง่าย ไม่ต้องใช้วีซ่า ซื้อตั๋วปุ๊บมาได้ปั๊บแล้ว การกินอยู่ก้อยังง่ายเช่นกัน อาหารญี่ปุ่น กินที่ไหนก้ออร่อย แต่อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เราชอบมานั่นก็คือ มาช้อปปิ้ง อัพเดตเทรนด์เสื้อผ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวญี่ปุ่นจ๋า ที่การแต่งตัวเค้าไม่เหมือนใครในโลกจริงๆ หลายๆ คนมาญี่ปุ่นก็มักจะเข้าร้าน UNIQLO หรือ Muji อะไรพวกนี้ อย่า! เพราะเมืองไทยก็มีตั้งหลายสาขาแล้ว มาถึงญี่ปุ่น ยังจะมาช้อปที่เดิมๆ อีกหราาา โน้ว~~~ มันเอ้าท์ไปแล้วจ้าาา 

หลายคนชอบถามเราว่า มาญี่ปุ่นซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ไหนดี? ไม่ใช่ว่าเราจะมั่นใจในการแต่งตัวของตัวเองมาก แต่อยากมาแชร์แบรนด์ที่เราชอบซื้อ อาจจะถูกใจเพื่อนๆ หลายๆ คน อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะจ๊ะ วันนี้เราจึงรวบรวมแบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่นสุดฮิต (ในความคิดเรานะ) ปี 2019 ที่เมื่อมาญี่ปุ่นแล้ว ก็ควรหาซื้อใส่กัน ทั้งแบบราคาย่อมเยาว์ไปจนถึงแพงลิบลิ่วกันค่า คาดว่า Topic นี้ คงจะถูกใจสาวๆ และหนุ่มๆ หลายคนเป็นแน่ (อาจจะไม่ถูกใจพ่อบ้านไปบ้าง แต่พ่อบ้านสายเปย์ต้องไม่หวั่นไหว)

พร้อมจะกระเป๋าฉีกกันรึยังค้าาาาาา~~~~~ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเล้ยย~~~~~~~

Maison Kitsune 
 

Gender:

เริ่มจากแบรนด์ตัวท้อปแนว street สัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งในปี 2002 โดย กิลดาส โลแอ็ค (Gildas Loaëc) และ มาซายะ คุโรกิ (Masaya Kuroki) ในกรุงปารีส ที่ถึงแม้ว่าจะออกตัวว่าเป็นแบรนด์แนว street แต่เสื้อผ้าที่ออกแบบมา ไม่ได้หวือหวามากจนเกินไป คือไม่ต้องโกนครึ่งหัว สักเต็มตัว เจาะปากเจาะจมูกก็ใส่ได้ หน้าอวบๆ อ้วนๆ ปุ๊กลุ๊กแบบเราและคุณชายก็ใส่ได้เช่นกัน ส่วนแบบที่เป็น signature ของแบรนด์นี้ เห็นจะเป็นเสื้อ shirt หรือ sweater โลโก้รูปหมาจิ้งจอก ที่พอมีอีโลโก้นี้แปะที่หน้าอกเสื้อ เสื้อคุณก้อจะดูแพงขึ้นมาทันที 5555 แบรนด์นี้คุณชาย crazy เป็นพิเศษ ไปญี่ปุ่นทุกครั้งจะต้องงอแงซื้อ

แบรนด์นี้หาซื้อได้ตามหน้าใหญ่ๆ อย่าง Hankyu, Takashimaya หรือ Mitsukoshi และมี Flagshop store อยู่ที่ Kyoto ซึ่งออกแบบตกแต่งแนวญี่ปุ่นจ๋า กิ๊บเก๋ยูเรก้ามากค่ะ สำหรับราคา อย่างที่บอกไป แบรนด์นี้เป็น street fashion ตัวท้อปๆ จึงมาพร้อมกับราคาที่ค่อนข้างแพง อย่าง knit ผู้หญิง start ต่ำๆ ก้อ ¥18,000 ไปจนถึง ¥30,000 

WebSite: https://maisonkitsune.com/fr_en/

Bathing Ape 
 

Gender:

อีก street fashion brand ที่ครอบแชมป์ all-time สำหรับเรา (ยังจ่ะ ยังไม่เบื่อ ใครเบื่อไปก่อนได้ลยนะ 555) โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบซื้อพวกเสื้อยืด กางเกงยีนส์ หมวกอะไรเทือกนี้ ที่นอกจากคุณภาพดีแล้ว มันจะมีบางตัวที่ดีไซด์ไม่ได้แรงจนเกินไป เหมาะกับวันไหนที่อยากดูฮิปฮอปหน่อย อยากแต่งตัวกระชากวัย ก็จะหยิบมาใส่ไรเทือกนี้ 

 

ถ้าจะเปรียบเทียบราคา ซื้อที่ญี่ปุ่นก็ดูเหมือนจะถูกกว่าซื้อที่เมืองไทยนิดหน่อย แถมได้ภาษีคืนอีก ส่วน shop brand นี้ก็หาได้ไม่ยากตามห้างใหญ่ ส่วนเมืองใหญ่ๆ มักจะมี official shop ของตัวเองอย่างที่ Shibuya Store เป็นต้น

WebSite: https://bape.com/index/

Snidel 
 

Gender:

ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นแนว feminine และ minimalistic ร้านนี้เป็นร้านของคุณค่ะ Snidel เป็นร้านเสื้อผ้าที่เราชอบมากที่สุด ไปทุกครั้งต้องซื้อ เสื้อผ้าออกแบบมาดี ตัดเย็บดี มีหลายลุคให้เลือก ส่วนใหญ่จะเป็นแนวหวานๆ แต่ละแบบมีสไตล์เป็นของตนเอง ออกแบบกิ๊บเก๋ แต่ไม่เว่อจนเกินไป ใส่ไปทำงานหรือไปเดทก็ได้ ชอบมว๊ากกก ข้อเสียคือ เสื้อผ้าแม่งชอบให้ซักแห้ง ใครซื้อมาแล้ว ต้องเผื่อค่าซักแห้งด้วยนะจ๊ะ

ใส่ส่วนของราคา Snidel ถือเป็นแบรนด์ราคาค่อนข้างแพง แต่ไม่ได้แพงหูฉี่แบบตัวท้อปๆ ถ้าเป็น dress ก้ออยู่ประมาณ ¥17,000 – ¥18,000 ที่เมืองไทยมี Shop ที่ Icon Siam ในตัวห้าง Takashimaya

WebSite: https://snidel.com/

Beams 
 

Gender:

Beams เป็นหนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมมากสุดในญี่ปุ่น เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะเป็นแนว casual และแนว comfortable fashion สำหรับวันรุ่นๆ หน่อย เสื้อผ้าที่ออกแบบมา มักจะมีความเก๋ ตรงนี้นิด ตรงนั้นหน่อย ดูแล้วไม่จำเจ เป็นแบรนด์ที่เราชอบใส่อันดับต้นๆ เลยทีเดียว เพราะสามารถเป็นทั้งเสื้อใส่ทำงานและเสื้อลำลอง ตัดเย็บดี นอกจากนั้น แบรนด์นี้ยังมีการ featuring กะแบรนด์ดังๆ ด้วย อย่างเช่นตอนนี้ มีเสื้อกันหนาวที่ featuring กับ Canada Goose ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อกันหนาวพรีเมี่ยมสัญชาติแคนาดา ซึ่งปกติแล้วจะมีแบบอยู่ไม่กีแบบ แต่พอมี featuring กะ Beams แล้ว ทำให้สไตล์ออกแนวญี่ปุ่น street หน่อยๆ คือดีย์มากจริมๆ 

Beams นอกจากจะเป็นร้านขายเสื้อผ้าแล้ว ยังมีร้าน interior decor และ furniture อีกด้วย ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 140 สาขาทั่วโลก ทั้งในญี่ปุ่นเอง อเมริกา จีน อิตาลี และ ฝรั่งเศส ส่วนที่ไทยก็เห็นมีขายอยู่ที่ Siam paragon ในโซนห้าง แล้วก็ที่ Emquatier มี shop อยู่

ราคาเสื้อผ้าของ Beams แพงเอาเรื่องเหมือนกัน อย่างเสื้อไหมพรมตัวแดงข้างบน จริงๆ แล้วเป็น 2 ชิ้นนะ คือ knit vest 1 และก็ knit cardigan อีก 1 สนนราคาที่ ¥48,400 

WebSite: https://www.beams.co.jp/

United Arrows 
 

Gender:

ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบแฟชั่นนอกกรอบและมองหาเสื้อผ้าชิ้นเก๋ๆ ไม่เหมือนใครอยู่หล่ะก้อ แนะนำว่าให้ไปที่ United Arrows ซึ่ง United Arrows ยังมีแบรนด์ย่อยอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์แม่อยู่มากมาย อาทิเช่น Beauty & Youth, Green Label Relaxing, 6(ROKU), EMMEL REFINES, etc. ที่แต่ละแบรนด์จะมีความโด่ดเด่นไม่เหมือนกัน 

United Arrows สาขาที่เป็น flagship store อยู่ที่ Roppongi โดยกินพื้นที่ชั้น 2 และชั้น 3 ของ Roppongi Hills West Walk สำหรับ target group ของแบรนด์นี้ จะเป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้าง high end นิดนึง เพราะราคาค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกัน อย่างเสื้อ knit ของผู้หญิง จะอยู่ที่ราคาประมา¥16,000 – ¥18,000

WebSite: https://www.united-arrows.co.jp/index.html

Green Label Relaxing 
 

Gender:

Green Label Relaxing เป็น brand ลูกของ United Arrows ที่ target group จะอยู่ที่กลุ่มวันรุ่น โดยราคาก็จะ drop ลงมา และ fashion ก็จะออกแนว casual street นิดๆ ส่วนตัวเราชอบเสื้อผ้าลำลองของที่นี่ เพราะเนื้อผ้าใส่สบาย ตัดเย็บดี ใส่แล้วดูแพงทั้งๆ ที่ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด 5555

นอกจากนั้น ถ้าใครจำได้ brand นี้ยังเคยไป featuring กับ converse ซึ่งทำรองเท้าเก๋ๆ รุ่นที่ใครๆ ก็อยากครอบครองและยังคงอยู่ใน wish list ของใครหลายๆ คนในปี 2019 นั่นคือรุ่น CONVERSE JACK PURCELL X UNITED ARROWS 

และอย่างที่บอกไป ราคาของแบรนด์นี้ ไม่ได้โหดเหมือนแบรนด์แม่อย่าง United Arrows สำหรับเสื้อ knit ราคาจะอยู่ราวๆ ¥6,000 – ¥9,000 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ affordable มากกว่า

WebSite: http://special.green-label-relaxing.jp/201910w_casual/Under-construction

Beauty and Youth 
 

Gender:

Beauty and Youth เป็นแบรนด์ที่อยู่ในเครือ United Arrow เช่นกัน โดยเสื้อผ้าออกแบบมาจะออกแนววัยรุ่นกว่า สีฉูดฉาดกว่า United Arrows ที่จะออกแนวใส่ทำงาน แต่ยังคงคอนเซปต์ญี่ปุ่นจ๋าอยู่เหมือนเดิม ใส่แล้วเหมือนเดินออกจาก magazine ญี่ปุ่นหยั่งไงหยั่งงั้นเลย มีทั้งของผู้ชายและผู้หญิง 

แบรนด์นี้ส่วนตัวเรา ไม่ค่อยได้ซื้อเพราะอย่างที่บอก มันวัยรุ่นไปหน่อย ใส่แล้วครือแบบรู้สึกติดส์เกินไปนิส เราชอบ green label relaxing มากกว่า แต่เอามาอยู่ใน List ด้วย เผื่อเพื่อนๆ คนไหนชอบแนวศิลปินๆ ก็แนะนำ brand นี้เลย สำหรับราคา แบรนด์นี้แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน Knit ขายอยู่ที่ประมาณ ¥16,000 – ¥17,000

WebSite: https://www.united-arrows.co.jp/shop/by/data/special/2019winter/look/women/Under-construction

WEGO
 

Gender:

ถ้าพูดถึง fast fashion brand ที่ญี่ปุ่นตอนนี้ เห็นจะไม่พ้น brand อย่าง WEGO เป็นแน่แบรนด์ WEGO นี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในโตเกียวและมีมากกว่า 150 สาขาในประเทศญี่ปุ่น เป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น เนื่องจากการออกแบบที่ทันสมัยและราคาที่ไม่แพงมาก แต่งออกมาแล้วคือหนุ่มสาวฮาราจูกุยังไงหยั่งงั้นเลย 

แน่นอนว่า fast fashion แบบนี้ สิ่งที่ดึงดูดคนส่วนใหญ่นอกจากดีไซด์ถูกใจคนส่วนมากแล้ว ยังอยู่ที่ราคาที่แสนจะถูก เสื้อผ้าเกือบทุกอย่าง ราคาอยู่ที่ประมาณ ¥1000 จนถึง ¥6000 เท่านั้นเอง เป็นไง? ราคาดีย์ใช่มั้ยล่ะ ใครกำลังมองหาเสื้อผ้าแบรนด์ญี่ปุ่นราคาไม่แพง ก็เชิญร้านนี้ได้จ้า

WebSite: https://wegoec.jp/shop/default.aspx

Cecil McBee

Gender:

ถ้าพูดถึง brand เสื้อผ้าญี่ปุ่น รายชื่อ brand ที่ติดโผอยู่ทุก chart แน่นอนว่าต้องไม่พ้น Cecil McBee เพราะเป็นแบรนด์มีอยู่มานานมากกว่า 2 ศตวรรษแล้ว เป็นแบรนด์ที่โด่งดังสำหรับวัยรุ่นและคนทำงาน ถ้าจะให้เทียบก็เหมือนกับแบรนด์ H&M, Forever 21, หรือ Zara ของญี่ปุ่นนั่นแหละ

สำหรับเรา เรามักจะซื้อเสื้อผ้าทำงานที่ร้านนี้ เพราะสไตล์หวานๆ ให้เลือกเยอะ ส่วนใหญ่ขายเป็นชุด dress หรือจับคู่มาให้เรียบร้อย ดังนั้นไม่ต้องมานั่งคิดว่า ซื้อเสื้อตัวนี้ จะไปใส่กะกระโปรงตัวไหนไรงิ ราคาไม่แพงมาก ซื้อได้ไม่ต้องคิดมาก แต่คุณภาพกลางๆ ราคามีตั้งแต่ ¥1000 จนถึง ¥19,000

WebSite: http://cecilmcbee.jp/

SHIPS 

Gender:

Brand นี้เป็น brand ทั้งชายหญิง แต่จะเน้นและ professional ไปที่เสื้อผ้าผู้ชายมากกว่า เป็นร้านประเภทที่เรียกตัวเองว่า “Selective shop” คือเจ้าของไปเลือกเสื้อผ้ายี่ห้ออื่นมาและจับ mix and match คล้ายๆ กับ Siwilai บ้านเรา สมัยก่อนชื่อว่า “MIURA” ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1970 ที่ Ueno หลังจากนั้นจึง re-brand เป็น MIURA AND SON ที่ชิบุยะ หลังจากนั้นปี 1977 จึงมีการ re-brand อีกครั้งเป็น SHIPS เปิดที่ Ginza ปัจจุบันมีมากกว่าหลายสิบสาขาทั่วญี่ปุ่น ปกติแล้วถ้าคุณเจอร้าน Beams ก็มักจะมีร้าน SHIPS เปิดใกล้ๆ เสมอ ซึ่งนอกจาก SHIPS จะมีเสื้อผ้าเป็นของตัวเองแล้ว ก็ยังคอนเซปเป็น selective shop เหมือนเดิม โดยมักจะเอา brand อย่าง Barbour, Paraboot, The North Face Purple Label, Champion, และ Converse Japan มา display เป็นประจำ

 

SHIPS เหมาะกับเป็น everyday working wear สไตล์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะผู้ชาย จุดเด่นคือ ถ้าคุณกำลังมองหาเสื้อ shirt ทำงาน smart casual หรือ formal ที่ทำงานสำหรับผู้ชาย แนะนำว่าควรมาที่นี่ เพราะ cutting และ size ของเค้าจะตัดออกมาสำหรับคนเอเชีย คุณภาพเหมือน Ermenegildo Zegna หรือ Amani แต่ราคาถูกกว่า จนกระทั่ง มากกว่า 50% ผู้ชายญี่ปุ่น ถ้าเปิดตู้เสื้อผ้ามาแล้วจะต้องมี shirt และสูทของ SHIPS แน่นอน สำหรับราคาเสื้อ shirt อยู่ประมาณ ¥13,000 – ¥14,000 ส่วนสูทมีหลายราคามาก มีตั้งแต่ ¥40,000 จนถึง ¥7-80,000 ก้อมี

WebSite: https://www.shipsltd.co.jp

 

niko and …

Gender:

ร้านสุดท้ายที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ในลิสแบรนด์ต้องซื้อของเราได้แก่ niko and … ร้านนี้มีแนวคิดเก๋ๆ ตรงที่ของที่เค้าขายไม่ได้เน้นขายเสื้อผ้าอย่างเดียว แต่ยังขายข้าวของเครื่องใช้ที่ปกติคุณใช้ในชีวิตประจำวันนั่นแหละ แต่จะเลือกเอาอันที่มีดีไซน์เก๋ๆ มาขาย จับมา mix and match ให้ โดยที่คุณอาจจะคิดไม่ถึง ดูดีแถมราคายังไม่แพงอีกต่างหาก ราคาเสื้อผ้าจะอยู่ที่ช่วงราคา  ¥3000 ถึง ¥11000 ร้าน Flagship store อยู่ที่ Meiji-Jingu ที่โตเกียว

ส่วนตัวเรา เราชอบไปซื้อพวกรองเท้าผ้าใบไว้ใส่สบายๆ เสื้อผ้าลำลอง และก็พวกผ้าพันคอไรงิ ซึ่งราคาถูกมว๊ากกก รองเท้าผ้าใบญี่ปุ่นใส่สบายๆ ราคา 3 พันกว่าเยนเท่าน้านนน ถูกใจแม่บ้านจ้า จุดๆ เน้

WebSite: https://www.nikoand.jp/

สำหรับ brand อื่นๆ ที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้วเช่น Superme, Comme Des Garcons, Issey Miyake อะไรพวกนี้ ขอข้ามนะคะ เพราะคิดว่าเพื่อนๆ น่าจะรู้จักตัวแบรนด์เป็นอย่างดีแล้ว


เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ brand ในลิสเรา ย้ำอีกทีว่านี่เป็นความชอบส่วนตัวนะเด้อ ใครคิดเห็นต่าง หรือมีแบรนด์อื่นๆ แนะนำ ก็บอกกล่าวกันได้ หรือมีแบรนด์ที่อยากแนะนำให้เราสอย กรุณาทักมานะคะ ไว้พบกันใหม่ topic หน้าจ้า 🙂

Amy Yu

สะใภ้จีนที่รักการท่องเที่ยวและการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าไม่ได้ทำงาน ซึ่งจริงๆแล้ว "ผิดถนัดค่ะ" ยังทำงานประจำอยู่นะคะ เป็นสาววิศวะไอที มีการงานทำค่ะ ประเทศที่ไปแล้วชอบมากเป็นอันดับหนึ่งคือ Iceland ส่วนประเทศที่ไปแล้วไปอีกเพราะสนุกดีคือ อินเดีย ประเทศที่ยังไม่ได้ไปแต่อยากไปมว๊ากกก คือ เคนย่า (หาเพื่อนไปยากมาก T.T) ใครเป็นสายท่องเที่ยว เชิญมาเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่จริงใจค่ะ :) กริรกริ

Recommended Articles

This error message is only visible to WordPress admins

Error: No feed found.

Please go to the Instagram Feed settings page to create a feed.