Dayton เมืองเล็กๆ ในรัฐ Ohio ที่อยู่ระหว่าง 2 เมืองใหญ่อย่าง Columbus กับ Cincinnati เมืองนี้ มีประชากรเพียง 8 แสนคนเท่านั้น แต่ความน่าสนใจของเมืองนี้คือเป็นบ้านเกิดของ Wright brothers สองพี่น้องที่คิดค้นและประดิษฐ์เครื่องบินขึ้นมาในโลกนี้ และปัจจุบันยังเป็นที่ตั้งของ National Museum of the U.S. Air Force ที่มีจัดแสดงเครื่องบินที่ถูกใช้งานตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นไป มีเครื่องบิน Air Force one ที่ประธานาธิบดีใช้ มิซซายล์ จนถึง Space shuttle ไปโน้น ที่สำคัญนะคะ museum ที่นี่ เข้าฟรีค่ะ! โอ้ เมืองเล็กๆ ที่มีแต่ของใหญ่ๆ จริงด้วย มาค่ะ เด๋วเราจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่า มันน่าสนใจแค่ไหน

Safety Instruction
ตอนนี้นะคะ ทางพิพิธภัณฑ์ออกมาประกาศว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดนแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ Mask เข้าชมนะคะ

ก่อนอื่น ขอบอกว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ใหญ่มาก ใหญ่กว่า NASA หรือ Museum of Flight ที่เราเคยไปหลายเท่า เพราะเพื่อนๆ อย่าลืมว่า ของที่จัดแสดงที่นี่คือเครื่องบินรวมถึงยานอวกาศที่มีขนาดใหญ่โคตรๆ แถมการจัดวางก็วางซะแน่น มีทั้งบนดินและบนฟ้า ละลานตาดูไม่ไหวกันเลยทีเดียว โดยจะแบ่งเค้าจะแบ่งเป็น Hall ใหญ่ๆ ทั้งหมด 4 hall จัดแสดงไล่ตามเก่าไปใหม่ โดยจะแบ่งตามลำดับเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ตั้งแต่ยุค Early Years ที่คิดค้นเครื่องบินขึ้นมาใหม่ๆ ต่อด้วย WWI และ WWII สงครามเกาหลีและเวียดนาม ไปจนถึงยุคส่งยานอวกาศไปยังนอกโลก ซึ่งนอกจากเครื่องบินของอเมริกาแล้ว ยังมีเครื่องบินของต่างชาติอีกด้วย ดังนั้น ถ้าจะให้เราสาธยายทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้ เราขอเลือกตัวเด่นๆ ที่น่าสนใจแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังละกันนะคะ

ถ้าจะพูดถึง Hall แรก Early Year คงหนีไม่พ้นบิดาแห่งการบินอย่างพี่น้องตระกูล wright ที่คิดค้นเครื่องบินที่บินได้สำเร็จในปี 1903 อันนี้เราคงไม่เล่าเยอะ เพราะน่าจะซ้ำๆ กันในหลายๆ museum ที่เกี่ยวกับเครื่องบิน เราก็เดินผ่านๆ เร็วๆ สำหรับ Hall นี้
ต่อมาก็เป็นเครื่องบินที่ใช้ในยุค WWI และ WWII โดยตัว Highlight อยู่ที่เครื่องบิน Memphis Belle เครื่องบินรบที่ถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองที่มีผู้หญิงใส่ชุด sexy ถูกวาดอยู่บน Nose ข้างตัวเครื่องนั่นเอง
Memphis Bell หรือ B-17F

เครื่องบินลำนี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องบินรบมีบทบาทสำคัญที่สุดในช่วงสงครามโลกที่สอง และยังเคยถูกสร้างเป็นภาพยนต์เรื่อง Memphis Belle: A Story of a Flying Fortress เพราะเป็นเหมือนพระเอกของแก็งค์ USAAF bombing force ที่ทำหน้าที่ทิ้งระเบิดในสนามรรบ และมีส่วนช่วยให้อเมริกาชนะนาซีของเยอรมันในที่สุด

หลายๆ คนน่าจะคุ้ยเคยกับ Nose Art หรือรูปผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างเครื่องบิน Memphis Belle คนนี้ เป็นแฟนสาวของกัปตันเครื่องบิน Robert K Morgan ซึ่งเป็นคน Memphis, Tennessee นั่นเอง เครื่องบินลำนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถบินได้ในที่สูงมากๆ ทั้งๆ ที่จำนวนระเบิดแบบ full load อยู่บนเครื่องและมีการป้องกันตัวเองสูงโดยการติดอาวุธปืนรอบตัว เพราะจะต้องพาตัวเองเข้าไปทิ้งระเบิดในพื้นที่ของฝ่ายตรงข้าม โดยเครื่องบินลำนี้ได้ผ่าน mission มาทั้งหมด 25 ครั้งก่อนที่จะถูกปลดประจำการที่ยุโรปในที่สุด สังเกตจากรูปลูกระเบิดที่ถูกวาดของอยู่ข้างตัวเครื่อง 1 ลูกระเบิดเป็นตัวแทน 1 mission นั่นเอง

D-Day

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทุกคนรู้จักดี นั่นคือ D-Day หรือวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ.1944 เป็นวันที่กองทัพอเมริกันและสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งนอร์มังดีของฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญมากของสงครามโลกครั้งที่สอง มีพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับปฎิบัตินี้อยู่มาก รวมถึง outfit ที่ทหารอเมริกาประเภทที่เรียกว่า ParaTrooper หรือพลร่มที่หย่อนตัวจากเครื่องบินเพื่อลงมาปฏิบัติการรบบนบกในวันนี้เช่นกัน จะเห็นว่าทหารพลร่มพวกนี้แบกของมากมาย ซึ่งนอกจากจะเป็นพวกของเบสิกๆ อย่างปืน กระสุน ระเบิดมือ และพวกน้ำกะของกินแล้ว เค้ายังต้องพกของประเภทของที่ใช้ช่วยเหลือตัวเองกรณีที่หย่อนตัวลงมาเจอหลุมโคลนหรือพวกเชือกที่ใช้โรยตัวกรณีติดอยู่บนต้นไม้ เพราะไม่รู้ลงมาจะเจอสภาพไหน ดูแล้วก็เอิ่ม ยอมรับในความกล้าหาญจริงๆ

Douglas C-124 GOLBEMASTER II
ต่อจากสงครามโลกครั้งที่สอง ก็มาถึงสงครามเกาหลี เครื่องที่ถูกจัดแสดงให้เป็นพระเอกเห็นจะเป็นเครื่องบินยักษ์ที่เป็น airlift หรือเครื่องบินขนของดีๆ นั่นเอง โดยที่เครื่องบินนี้ ใช้ขนของประเภทรถแท็งค์ รถแทรกเตอร์ หรือรถบรรทุก หรือจะใช้ขนไพร่พลก็ได้ โดยสามารถขนทหารที่ fully equipped ได้ถึง 200 กว่าชีวิตเลยทีเดียว เครื่องบินลำนี้นอกจากจะเข้ารวมในสงครามเกาหลี ยังใช้ใน mission resupply ที่ Antarctica หรืออพยพประชากรในประเทศคองโก โมรอคโค ชีลี เพื่อช่วยเหลือคนที่ประสบกับอุทกภัยหรือภัยธรรมชาติอื่นๆ

ที่เก๋อย่างนึงคือ เราสามารถขึ้นไปบน aircraft เพื่อเข้าไปดูในตัวเครื่องได้ คือข้างในมันใหญ่มว๊ากกกก เหมือนในหนังเลยอ่ะ ชอบๆ

นอกจากส่วนที่จัดแสดงเครื่องบินรบแล้ว ยังมีส่วนที่จัดแสดงเครื่องบิน Air Force One ที่เป็นเครื่องบินที่ถูกใช้งานโดยประธานาธิดีของอเมริกาด้วยค่ะ ซึ่งเราคิดว่ามันน่าสนใจมากๆ ไปดูกันเล้ยยยย
SAM 26000

หนึ่งในเครื่องบินของประธานธิบดีที่เราเห็นว่าน่าสนใจมาก คือลำนี้ค่ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในลำที่เกี่ยวข้องกับโศกนาถกรรมสำคัญเหตุการณ์หนึ่งในอเมริกา นั่นคือใน incident ที่ president J.F. Kennedy ถูกลอบสังหารในรถยนต์ระหว่างทางไป downtown Dallas ในปี 1963 ในขณะนั้น Vice President Lyndon B. Johnson กำลังนั่งเครื่องบิน SAM 26000 อยู่ และได้ทำพิธีสาบานตนขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาบนเครื่องบินลำนี้นี่เอง และเครื่องบินลำนี้ ยังเป็นพาหนะขนส่งร่างของ J.F. Kennedy กลับไปยัง Washington DC เพื่อจัดงานศพต่อไปอีกด้วย

นอกจาก J.F. Kennedy และ Johnson แล้ว SAM 26000 ยังเป็นเครื่องบินเครื่องแรกที่ไปเยือนประเทศจีน โดย President Nixon เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีที่เรียกกันว่า “A Journey for peace” ในช่วงสงครามเย็น กับประเทศคอมมูนิสต์อย่างประเทษจีนสมัยประธานเหมาเจ๋อตุงนั่นเอง
Working zone Silverware used on board Custom made amenities used on the Air Force One
โดยรวมแล้ว SAM 26000 ลำนี้ มีประธานาธิบดีถึง 8 คนโดยสาร ก่อนจะถูก retrie ในปี 1998 หลังจาก 36 years of service ปัจจุบันก็จอดอยู่ที่นี่นั่นเอง

Lockheed Martin F-22 Raptor
เครื่องบินอีกลำที่ไม่พูดถึงไม่ได้ และถือว่าเป็น hi-light สำคัญของที่นี่คือ F-22 ที่เป็นเครื่องบินที่นั่งเดียว 2 engine ที่สามาถบินแบบ Stealth โหมดได้ในทุกสภาพอากาศ โดยเครื่องบินรุ่นนี้ ยังเป็นรุ่นที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน F-22 ลำนี้ ถือเป็นเครื่องบินรบลำแรกที่สามารถบินแบบ stealth mode ได้ นอกจากความสามารถในการกำหนดเส้นทางบินแบบเป็น course หรือที่เรียกว่า maneuverability ได้แล้ว ยังสามารถบินได้ระยะทางไกลกว่าปกติด้วย supersonic speed ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำหน้า และ material ไฮโซที่ใช้สร้าง ทำให้เครื่องบินลำนี้ชนะรางวัลการออกแบบเครื่องบินในปี 1991

ที่เรากล่าวมานั้น ถือว่าเป็นเศสเสี้ยวของเครื่องบินที่เก็บอยู่ที่นี่ เพราะมันยังมีพวกเครื่องบินยิงขีปนาวุธ เครื่องบินยิงระเบิด nunclear ไปถล่มฮโรชิม่า นางาซากิ เครื่องบินขับไล่ F-15 F-16 หรือแม้แต่ยานอวกาศหรือจรวจ ก้อยังมีจัดแสดงไว้ที่นี่ เอาเป็นว่าขนาดเดินดูผ่านๆ ยังใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้าจะดูละเอียด เห็นว่าควรจะต้องปักหลักอยู่ที่เมือง Dayton นี้เป็นอาทิตย์แน่นอน สิ่งสำคัญที่เราอยากจะกล่าวถึงคือ ความแตกต่างระหว่าง museum ที่นี่และที่ไทย เนื่องจากประเทศนี้เค้ามีอะไรให้โชว์ ทำให้เค้าสามารถสร้างพิพิธภัณฑ์ลักษณะแบบนี้ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์และทำให้เด็กๆ และคนรุ่นหลักได้เรียนรู้อะไรมากมาย ขนาดเราที่ไม่ได้เป็นคนได้สนใจประวัติศาสตร์มากขนาดนั้น มาเที่ยวที่นี่ ยังรู้สึกได้ความรู้มากกว่าเก่าเป็นกอง




เอาเป็นว่าพอหอมปากหอมคอแค่นี้เนอะ ใครที่เป็นสาย aviation บอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่นี่
Opening Hours
Museum ที่นี่ เปิด 9-5 โมงเย็น 7 วันต่อสัปดาห์ หยุดวัน Thanksgiving, Christmas, และวัน New Year

สะใภ้จีนที่รักการท่องเที่ยวและการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าไม่ได้ทำงาน ซึ่งจริงๆแล้ว “ผิดถนัดค่ะ” ยังทำงานประจำอยู่นะคะ เป็นสาววิศวะไอที มีการงานทำค่ะ ประเทศที่ไปแล้วชอบมากเป็นอันดับหนึ่งคือ Iceland ส่วนประเทศที่ไปแล้วไปอีกเพราะสนุกดีคือ อินเดีย ประเทศที่ยังไม่ได้ไปแต่อยากไปมว๊ากกก คือ เคนย่า (หาเพื่อนไปยากมาก T.T) ใครเป็นสายท่องเที่ยว เชิญมาเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่จริงใจค่ะ 🙂 กริรกริ