“ไห่หนาน” ที่ที่ผู้คนรู้จักกันในนาม “ฮาวายของประเทศจีน” ?? เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในทะเลจีนใต้ และโรงแรมที่เราไปพักคราวนี้คือ The Sanya Edition บางคนอาจจะไม่คุ้นหูกะแบรนด์นี้ The Edition เป็น Boutique life style hotel แบรนด์ใหม่ในเครือ Marriott (เมืองไทยก้อกำลังจะมี The Bangkok Edition แห่งแรก อยู่ที่ตึกมหานคร) The Sanya Edition เป็นโรงแรมที่ถือว่าใหม่ที่สุดใน Haitang Bay และเป็น china’s first private ocean hotel คือภายในพื้นที่ของโรงแรม มีการสร้างทะเลส่วนตัวขนาดยักษ์เป็นของตัวเอง พร้อมกับ Kids’ club และสวนน้ำอีกหลายที่ นอกจากที่นี่ยังเป็นรีสอร์ทแล้ว มันยังเป็นสวนสนุกขนานย่อมอีกด้วย



Location
Haitang Bay อยู่ตอนใต้ของเกาะ ห่างจากสนามบิน Sanya ไปราวๆ 45 นาที ถ้าคุณคิดว่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโรงแรม เราคิดว่ารถไม่จำเป็น แต่ถ้าคุณคิดจะออกไปเที่ยวตัวเมือง Sanya แล้วด้วยแล้ว การเช่ารถก้ออาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ? ใกล้ๆ โรงแรมมี duty free ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจีนตั้งอยู่ เราสามารถเดินจากโรงแรมไป ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในส่วนของที่เที่ยว บอกเลยวา่บริเวณใกล้ๆ นั้นไม่มี มีแต่ resort เพราะฉะนั้น โรงแรมนี้เหมาะสำหรับคนที่คิดจะเปลี่ยนที่กินนอน ใช้เวลาส่วนใหญ่ อยู่ใน resort หรือตั้งใจมาพักผ่อนกายา หลบความวุ่นวายไรประมาณนี้ ?

Design & Atmosphere

ในส่วนของการ design ตั้งแต่ทางเข้ารีสอร์ทก้ออึ้งแล้ว นอกจากจะกว้างขวาโอ่โถ่ง ตกแต่งแนว zen แล้ว ยังมีส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมคือ ซุ้มไม้ไผ่สะท้อนน้ำ ที่เป็นจุดถ่ายรูปคลาสสิกของที่นี่ บริเวณรอบๆ รีสอร์ทเค้าจัดทางเดินได้กว้างขวางมากๆ คุณจะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในสวนอยู่ตลอดเวลา ตัวรีสอร์ทตกแต่งแนว tropical garden ต้นไม้เค้านานาพันธุ์ เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัว เข็นรถเข็นพาญาติผู้ใหญ่มาเที่ยวสบายๆ และอย่างที่เกริ่มไว้ โรงแรมสร้างทะเลส่วนตัวขนาดยักษ์ไว้ตรงกลางรีสอร์ท รอบๆ มีทั้งทางเดิน โซนนั่งพักผ่อนอาบแดด และร้านอาหาร ทำให้ทุกๆ จุดที่คุณทำกิจกรรมใดๆ จะเหมือนอยู่ติดทะเลตลอดเวลา

Service & Facility
แทบจะไม่ต้องสารธยายเลยว่า บริการที่นี่เป็นยังไง The Edition จริงๆ แล้วเป็นเหมือนน้องของพี่ใหญ่อย่าง The Ritz Carlton การบริการที่นี่คือว่ายอดเยี่ยม เราได้รับการต้องรับจากเลขาของ GM พาเดิมชมรอบโรงแรม รวมถึงแนะนำบริการและร้านอาหารที่โรงแรม provide ให้ ระหว่างทางฮีก้อเลี้ยงข้าวกลางวันและน้ำมะพร้าว ที่ว่าเลี้ยงนี่คือเลี้ยงจริงๆ นะ ฮีพาเราเดินไปร้านอาหารแนะนำโน่นนี่นั้น และก้อบอกว่า ให้เราสั่งอาหารตามสบาย โดยไม่คิดเงิน โอ้ววว อะไรมันจะดีขนาด นอกจากนั้นแล้ว พนักงานทุกคนจะจำเราได้ ไม่ว่าเราจะเดินไปไหน ทุกคนจะ address เราด้วยชื่อเรา ขนาดเราสั่งข้าวมันไก่ไห่หนานแบบไม่ติดหนังตอนกลางวัน ตอนเย็นย้ายไปกินอีกร้านนึง เค้ายังถามว่าจะเอาหนังไม๊ เพราะทราบมาว่าเราไม่กินหนัง ว่อออ ?



ด้วยเหตุที่ Haitang Bay ห้ามมิให้นักท่องเที่ยวลงไปว่ายน้ำทะเลเนื่องจากกระแสน้ำแรง โรงแรมจึงเนรมิตทะเลส่วนตัวขนาด 20,000 ตารางเมตรขึ้นมาเองซะเลย ซึ่งส่วนน้ำเค็มจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ให้คนว่ายน้ำเล่น กับส่วนที่ไว้เล่นกิรกรรมทางน้ำ อันได้แก่ paddle board, kayak, water bicycle และอื่นๆ นอกจากนั้น โรงแรมยังมีส่วนที่เป็นสระน้ำจืด หลายสระ ทั้งบนดินและบนตึก มี Kids club พร้อมกับสนามรถบั๊มขนาดย่อมไว้ให้บริการอีกด้วย ที่เจ๋งคือที่นี่มีห้อง nursery ที่ให้พ่อแม่มาทิ้งลูกๆ ไว้ที่นี่ โดยที่จะมีพนักงานดูแลบุตรหลานของท่านตลอดเวลา นอกจากนั้นยังมี standard service อย่าง ESPA spa, bookstore, galllery และ Gym ให้อย่างครบครัน





ข้อเสียในเรื่องบริการน่าจะมีอย่างเดียวคือ เรื่องภาษา ถึงแม้ว่าเลขา GM กะ chef ทำ omlette จะพูดภาษาอังกิดได้บ้าง แต่พนักงานส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ขนาด conciege ยังฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยออก โอ้ววว จะไหวไม๊คะคูณ ?
Rooms



ห้องพักที่นี่ทุกห้องเป็น Ocean front ทั้งหมด และด้วย design มีแค่โทนมีขาว ดำ เทา และไม้ ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย สะอาด minimal นิดๆ ด้านนอกระเบียงมี beach sofa ให้ด้วย เราก้อนอนเล่น iPad สบายแฮ ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของห้องนอนที่ The Sanya Edition คือมีม่านวงกลมล้อมรอบเตียง 5555 ออกจะเซะซี่นิดๆ นะ ห้องน้ำก้อยังคง concept ขาวไม้เหมือนเดิม โดยอ่างอาบน้ำทำด้วยหินสีขาวเกลี้ยงทั้งหมด

สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือ amenity ของที่นี่ซึ่งใช้ของ Le Labo ซึ่งเค้าดังในเรื่องการทำน้ำหอมสด ผสมกันสดๆต่อหน้าลูกค้า นั่นหมายความว่าส่วนผสมต่างๆของน้ำหอมจะยังไม่ถูกนำมาผสม นอกจากจะมีคำสั่งซื้อจากลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น ยังเปิดให้ลูกค้าได้เห็นกรรมวิธีการปรุงน้ำหอมอีกด้วย เพื่อรับประกันว่าลูกค้าจะได้น้ำหอมที่สดใหม่และมีคุณภาพ ขนาดที่โรงแรมให้มาคือ 90 ml ซึ่งกลิ่นน่าจะเป็นกลิ่นเฉพาะที่ใช้สำหรับ The Edition เท่านั้น กลิ่นนี้นอกจาก จะใช้เป็น amenity แล้ว ทั้งโรงแรมก้อจะมีกลิ่นนี้ด้วยเช่นกัน จิ๊กกลับบ้านสิคะ รอรัย ?

อย่างที่บอก บริการของที่นี่ถือเป็นจุดเด่น ทางโรงแรมได้เตรียม surprise ไว้ให้เราในห้อง นั่นคือแชมเปญและเค้ก red velvet ?หน้าตาดูดี แถมไม่ไม่ได้แค่ดูดีอย่างเดียว ยังอร่อยมากๆ อีกด้วย อันนี้ไม่ได้เวอร์นะ ข่าวว่า macaroon ที่นี่ก้ออร่อยด้วย (เสียดายไม่ได้ชิม)


Restaurants
3 ใน 4 ของร้านอาหารในโรงแรมติดโผของ 5 อันดับแรกของร้านอาหารใน Sanya อาจเป็นเพราะใกล้ๆ ไม่มีร้านอาหารดีๆ รึไงไม่รู้ โดยส่วนตัว เราว่ารสชาติอาหารงั้นๆ นะ เน้นบริการและบรรยากาศมากกว่า เริ่มจากห้องอาหาร The Market ที่เป็นที่เราทานอาหารเช้า จริงๆ ที่นี่เป็น All Day Cuisine มีอาหารหลากหลาย นานาชาติ สำหรับอาหารเช้านั้น selection ก้อจะคล้ายๆ กับอาหารเช้าของโรงแรมอื่นทั่วไป มีทั้งแบบ western และแบบ Asia ที่ประทับใจเราอย่างมากคือที่นี่มีโจ๊ะปูให้กินด้วย เลิฟเลยจ้า ?

ห้องอาหารที่ The Market มีทั้ง indoor และ outdoor มีห้อง theme พิเศษๆ ให้เลือกนั่งอย่าง ธีมเครื่องปั้น, ธีมประการัง, หรือว่าจะเป็นธีมนั่งจิบชาก้อตาม



อีกร้านที่เราได้มีโอกาสไปรับประทานคือร้าน Xian Hai By The Sea เป็นร้านอาหารที่เป็น Glass box ลอยอยู่เหนือน้ำทะเลปลอมนั่นแหละ ร้านนี้บรรยากาศดีมาก เพิ่งเปิดเมื่อเดือนมกราที่ผ่านมานี่เอง ข้อเสียมีข้อเดียวคือ แพง! เราสั่งอาหารเซตซึ่งประกอบไปด้วย ปอเปี๊ยไรซักอย่าง ซุปเห็ดสมุนไพรซักอย่าง กุ้งทอด ผัดๆ 2-3 อย่าง ปิดท้ายด้วยผัดหมี่ รวมๆ แล้วค่าเสียหายสองคนเกือบ 5 พันบาท ?

นอกจากนี้ก้อมีร้านแนว beach หน่อยๆ เป็นร้านอาหารไสตล์บาหลี – Beach Barbacoa – และก้อร้านอาหารแนว Roof Top Sky Bar ชั้น 12 ที่คุณสามารถไป enjoy บรรยากาศริมทะเล ลมพัดเย็นๆ พร้อมกับจิม cocktail ไปพลางๆ ชิวสุดๆ

โดยรวมโรงแรมนี้สวยเลิศ ดีไซด์ดี ไม่เสียชื่อน้อง The Ritz Carlton จริงๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว เพราะพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก กิจกรรมจัดเต็ม F&B outlet ก้อมีให้เลือกมากมายแบบไม่เบื่อ แต่คุณอย่าหวังอะไรจากชายหาดธรรมชาตินอกโรงแรม น้ำใสไหลเย็น Landscape ธรรมชาติสวย หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ นอกโรงแรม เพราะเมืองไทยมีดีกว่าเยอะ! บอกเลอ ?

สะใภ้จีนที่รักการท่องเที่ยวและการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าไม่ได้ทำงาน ซึ่งจริงๆแล้ว “ผิดถนัดค่ะ” ยังทำงานประจำอยู่นะคะ เป็นสาววิศวะไอที มีการงานทำค่ะ ประเทศที่ไปแล้วชอบมากเป็นอันดับหนึ่งคือ Iceland ส่วนประเทศที่ไปแล้วไปอีกเพราะสนุกดีคือ อินเดีย ประเทศที่ยังไม่ได้ไปแต่อยากไปมว๊ากกก คือ เคนย่า (หาเพื่อนไปยากมาก T.T) ใครเป็นสายท่องเที่ยว เชิญมาเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่จริงใจค่ะ 🙂 กริรกริ