เอาจริงๆ จุดเริ่มต้นของทริปนี้มาจากแม่ ที่ติดซีรีย์มหาภาระตะอย่างงอมแงม แล้วมีความคิดติ๊งต่างเองว่า อ๋อออ ? เรื่องมันเกิดที่แคว้นคุชราช แปลว่า เรามาแถวๆ นี้ก้อจะได้เห็นอะไร เหมือนในหนังสินะ … นั่นแหละ …. ปล่อยให้นางมีความคิดนั่นต่อไป ? เราก้อเลยได้โอกาสกลับมาอินเดียอีกครั้งหนึ่ง กลับไปเปิดดู Passport แปร๊บ~~~ เอาเชี่ย! กูนี่ไปอินเดียทุกปี กลายเป็น funclub ประเทศนี้ไปแล้วเรียบร้อย … ??
พอพูดถึงว่า ทำไมถึงมาเมืองนี้? คุยกะเพื่อนอินเดียที่บริษัท พูดชื่อออกมา มันยังถามกลับมาว่า ประเทศไหน … อ้าวแสรด …. มึงไม่รู้แล้วกูจะไปถูกมั้ยเนี่ยะ แต่พอหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ก้อค้นพบว่า เหยยยย เมืองนี้มัน unseen กว่าที่คิด และที่สำคัญ มันยังเป็นเมืองแรกในประเทศอินเดียที่ได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย อ้าว! ที่แท้ แม่งมีดีเกินคาด ? แถมมาที่นี่ก้อไม่ได้ลำบาก ยิงตรง บินยาวจากกรุงเทศต่อเดียวถึง สะดวกสวดๆ เลยลงเอยว่าได้มาที่นี่
ความพิเศษของเมืองนี้ที่ต่างจากเมืองอื่นในอินเดียอย่างเห็นได้ชัดคือ มันเป็นเมืองแรกในอินเดียที่ UNESCO ยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จุดเด่นของเค้าอยู่ที่สถาปัตยกรรมแบบนูนต่ำ อ่ะ! งงอ่ะดิ เหมือนกรูเลย อธิบายง่ายๆ คือเหมือนก่อทรายขึ้นมาเป็นสีเหลี่ยม แล้วเอามีดเจาะลงไป เพื่อสลักเป็นรูปไรเทือกนี้ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมทางฝั่งตะวันตกของอินเดียเลยก้อว่าได้ คือไปที่ไหน ถ้าเป็นของเก่า แม่งมาแนวนี้หมด ส่วนตัวเมืองเองค่อนข้าง unique เลยทีเดียว เนื่องด้วยความที่เป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีใครมาเที่ยว ดูๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังน้อยถึงน้อยมาก คือถ้าสังเกตดีๆ ไม่มีทั้งฝรั่งหรือคนจีนตามสถานที่เที่ยว คนท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ คือมันโคตร raw อ่ะ เราก้อเลยอยากแชร์ให้ทุกคนดูว่า ทำไม UNESCO ถึงให้มันเป็นเมืองมรดกโลก!!!! ?
- Sabarmati Ashram
“My Life is my message.”☝
ที่นี่เป็นอาศรมที่ก่อตั้งโดยมหาตมะ คานธีและเป็นที่ที่ท่านใช้บำเพ็ญตน ? เค้าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ร่วม 10 กว่าปี รวมถึงเป็นจุดที่ท่านเริ่มนำการเดินขบวนดันดี ไปยังชายฝั่งทะเลใกล้หมู่บ้านดันดี ในปี 1930 ??? ระหว่างการเดินขบวนนาน 24 วัน เป็น
- Adalaj Stepwell (Adalaj Ni Vav)
หลายคนอาจสงสัยว่า Stepwell คืออะไร?
Stepwell หรือเรียกอีกอย่างว่า Vav มันคือบ่อเก็บน้ำของคนสมัยก่อน (เริ่มสร้างที่ปี 1499) ที่สร้างเป็นบันไดขั้นๆ หลายชั้น สามารถเดินลงไปได้ การสร้างบ่อน้ำลักษณะนี้ popular มากใน western india ซึ่งนอกจากจุดเด่นอยู่ที่การทำบันไดเป็นขึ้นๆ ลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น ก้อจะเป็นการแกะสลักผนังบ่อที่ค่อนข้างจะละเอียด detail เยอะเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนมากจะเกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีพระศิวะ พระกฤษณะ อะไรเทือกนี้ คือบอกเลย คือ อลังการมาก
Adalaj Stepwell อันนี้ถือเป็นอันที่ popular ที่สุดในหมู่ stepwell ด้วยกันเอง (เราว่าเป็นเพราะมันอยู่ใกล้เมืองมากกว่า) สร้างโดยพระนางรูดา สลักจารึกเป็นภาษาสันกฤตไว้ที่หินอ่นชั้นล่างสุดของบ่อ
บันไดถูกสร้างจากทางเข้าถึงปากบ่อน้ำสูง 5 ชั้น ตัวบ่อน้ำถูกสร้างเป็นรูป 8 เหลี่ยม เสาและผนังด้านในถูกแกะสลักไว้อย่างงดงาม
- Bhadra Fort and Day Market
เป็นป้อมที่อยู่กลางเมือง Ahmedabad ถ้าไปตอนกลางวันจะทางเข้าหาโคตรยาก เพราะโดนล้อมรอบไปด้วยตลาด เอาจริงๆ ข้างในไม่ค่อยมีอะไร ไปเดินดูตลาดขำๆ มากกว่า อีกอย่างการไปเที่ยว fort ตอนอุณหภูมิ 43 องศา ก้อไม่ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีนัก ร้อนมากเว่อออ ?
เอาจริงๆ ที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรนะ ถ้าเวลาไม่มีก้อข้ามไปก้อได้ ที่น่าสนใจคือตลาดที่อยู่ข้างนอก ซึ่งขายของสารพัด ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องประดับผู้หญิง ไปเดินดูแล้วก้อรู้สึกตลกดี คือแต่ละอย่างมันจะทองไปไหน ดูบริงค์ๆ ? และก้อใหญ่มากเว่อ ใส่ไปนี่หนักคือหนักหูแน่ แต่มันก้อเป็นสีสันอย่างนึงที่เราประทับใจนะ ไม่น่าเชื่อ ผู้คนที่นี่ช้อปปิ้ง outdoor ท่ามกลางอุณหภูมิ 43 องศา! มาอินเดีย ไม่แหวกแนวก้อมาไม่ถึงนะเออ! ?
- Rani Stepwell (Rani Ki Vav)
บ่อนี้เป็น Hi-Light จริงๆ เพราะโค-ตะ-ระ ใหญ่และอลังการกว่าอันแรกมาก เป็น stepwell ที่ตั้งอยู่ที่เมือง Patan ต้องนั่งรถออกจากเมือง Ahmedabad ไกลออกไปประมาณ 3 ชั่วโมง สร้างขึ้นในคริสศรตวรรษที่ 11 และถูกบันทึกว่าเป็น UNESCO World Heritage Sites ในปี 2014 คำว่า Rani แปลว่า Queen พอมานึกดูแล้ว เออใช่ เหมือนกับคำว่า ราชินี เรยย เอาจริงๆ มาคราวนี้ได้คำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มเหมือนกันนะ ทำให้รู้ว่าคำศัพท์ไหนมาจากรากศัพท์เป็นภาษาสันสกฤต บ่อน้ำอันนี้ลึกเท่าตึก 7 ชั้น ด้านในมีรูปปั้นมากว่า 500 ตัว แกะสลักงดงามมาก การแกะสลักก้อค่อนข้างละเอียด เครื่องประดับที่ใส่ก้อเห็นชัดเจน
ตอนเราไปแม้ว่าจะร้อนมากถึงมากที่สุดก้อตาม แต่เมื่อเดินลงไปเรื่อยๆ ก้อจะเย็นขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใกล้บ่อก้อยิ่งเย็น
ถ้าโชว์ passport ไทยตอนซื้อตั๋ว ได้ลดราคานะ อย่างที่นี่ ราคานักท่องเที่ยวคือ 100 รูปี ราคาคนอินเดียและคนไทย 15 รูปี ดีงามพระรามแปด!
เอาเป็นว่าที่นี่ ห้ามพลาดๆ คือมันใหญ่ มันอลังการ และ detail ก้อสวยจริงๆ ครับท่านผู้โชมมมม
ระหว่างทางที่คุณไป Rani’s Step well นั้น จะมีจุดแวะที่น่าสนใจแห่งนึง ซึ่งคือ ?Sun Temple ที่มีความเก่ามากกกก คือสร้างตั้งแต่ปี 1026-27 ปัจจุบันไม่ได้ใช้ในการประกอบพิธิกรรมอะไรใดๆ อาคารวัดสร้างขึ้นในสไตล์ Maru-Gurjara (สไตล์ Chaulukya) ภายในประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ Gudhamandapa – the shrine hall, Sabhamandapa – the assembly hall และ Kunda – ที่เป็นเหมือนบ่อเก็บน้ำ
อารามสองหลังสามารถเดินเชื่อมกันได้ ทั้งเสา ผนังและ ประตูมีรูปแกะสลักเทพ ล้อมรอบด้วยนักเต้นและรูปแกะแนวฮีโรติกหน่อยๆ (ท่าเยอะมาก) ดูแล้วคือแบบสวยมว๊ากกกก เราชอบที่นี่ที่สุดเลย ? คือมันไม่ได้ใหญ่นะ แต่การแกะสลักทำได้ปราณีต มีเรื่องราว (ไม่ได้แบบ นึกจะปั้นหมู หมา กา ไก่ อาราเล่ อะไรก้อปั้นมารวมกันเลยงิ) และทำละเอียดมาก ชอบๆ
ที่วัดนี้ เราได้จ้างไกด์คนอินเดีย เป็นลุงแก่ๆ ขาเป๋คนนึง ลุงเล่าให้ฟังว่า ฐานของอารามปั้นขึ้นมาเป็นรูปดอกบัว ชั้นต่อมาเป็นช้าง ชั้นต่อมาเป็นคน ซึ่งจะเป็นเหมือนวัฐจักรชีวิตของคนตั้งแต่เกิดจนตาย
ข้อสังเกตชัดๆ ที่เราเห็นคือ ในศาสนาพุทธของเรา วัฐจักรชีวิตจะเป็น เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ใช่ป่ะ แต่ดูจากรูปปั้นตามผนังที่บอกเล่าเรื่องราวความเชื่อ เราเห็นว่าศาสนาพราหมณ์นั้น มีแต่ เกิด-ผสมพันธุ์-ให้กำเนิด-แล้วก้อตายเลย ไม่มีการเจ็บหรือแก่
เอาเป็นว่าที่นี่เป็นที่ที่เราชอบมากอันดับนึงเลยก้อว่าได้ ถ้าใครชอบถ่ายรูปนี่ มีที่ให้ถ่ายรูปเกร๋ๆ เพียบ … แต่ตอนที่เราไปนี้ ร้อนหยั่งกะซ้อมลงกะทะทองแดง ? ไปยืนถ่ายรูปกลางแดดก้อกลัวจะเป็นลมไปซะก่อน … แนะนำว่า มาหน้าหนาวเห้ออออ
- Jama Mosque
- Ahmehdabad old city heritage walk
คือเมืองนี้เนี่ยะ ถือเป็นเมืองเก่ามาก แม้จะไม่เก่าเท่าพาราณสี แต่มันก้อมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 600 ปี และแน่นอนว่าในช่วงเวลายาวนานขนาดนี้ จะต้องมีหลายศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนที่นี่ เมืองนี้นอกจากจะมีศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาอิสลาม ที่เป็นศาสนาหลักแล้ว ยังมีพุทธ และศาสนาหายากอย่างศาสนาเชน (Jain) อีกด้วย ดังนั้นเพื่อสัมผัสถึงความรุ่งโรจน์ของอาเมดาบัด ลองเลือกช่วงเช้าวัดใดวันหนึง เดินผ่าน “Walled City” และเพื่อชมสถาปัตยกรรม และความหลากหลายศิลปะทางศาสนา เค้าจะมี standard walking route ให้เราเดิมตามอยู่เลย ลอง search google ดู
สะใภ้จีนที่รักการท่องเที่ยวและการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่าไม่ได้ทำงาน ซึ่งจริงๆแล้ว “ผิดถนัดค่ะ” ยังทำงานประจำอยู่นะคะ เป็นสาววิศวะไอที มีการงานทำค่ะ ประเทศที่ไปแล้วชอบมากเป็นอันดับหนึ่งคือ Iceland ส่วนประเทศที่ไปแล้วไปอีกเพราะสนุกดีคือ อินเดีย ประเทศที่ยังไม่ได้ไปแต่อยากไปมว๊ากกก คือ เคนย่า (หาเพื่อนไปยากมาก T.T) ใครเป็นสายท่องเที่ยว เชิญมาเมาท์มอยหอยสังข์กันได้นะคะ เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่จริงใจค่ะ 🙂 กริรกริ